มาส์กหน้ากันเถอะ

การมาส์กหน้าเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการดูแลผิว ช่วยรักษาและป้องกันปัญหาผิวต่างๆ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีควรมาส์กหน้าอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ การเลือกซื้อที่มาส์กหน้าควรเลือกซื้อที่เหมาะกับสภาพผิว และแก้ปัญหาที่ตรงจุด

เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหน้า ดังนั้นต้องเลือกที่น่าเชื่อถือ ปกติเราจะเลือกซื้อจากเคาเตอแบรนซึ่งราคาสูงมาก ส่วนใหญ่ก็เกินพันบาท บางครั้งลงทุนซ์้อไปก็ใช้แค่ครั้งเดียว เพราะมันไม่ถูกกับผิวหน้า ทำให้สิวขึ้น ทำให้มีปัญหาผิวตามมา ที่เป้นแบบนั้นก็เพราะ สารเคมีที่ใส่ในที่มาส์กหน้าทำร้ายผิวเรา อาทิ เช่น น้ำหอม สารกันเสีย เป็นต้น

1. Oatmeal + Milk + Honey + Water (Gentle Hydrating Face Mask เติมความชุ่มชื้อนให้ผิว)

2. Milk + Unflavored Gelatin (+ Optional: Honey, Tea Tree Oil) (Pore Strip Face Mask ทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดสิวเสี้ยน สิวหัวดำ)

3. Honey + Cinnamon + Nutmeg (Breakout Prevention Face Mask ทำให้หน้าสว่างใส ป้องกันสิว)

4. Bentonite Clay + Apple Cider Vinegar (Anti-Acne Clay ทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ)

5. Lemon Juice + Honey + Buttermilk + Cocoa + Greek Yogurt + Banana (in various combinations) (ต่อสู้ปัญหาสิว ทำความสะอาดรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดเลือนรอย และเพิ่มความกระชับให้ผิว)

6. Banana + Almond or Olive Oil + Egg Yolk (Mildly Exfoliating Face Mask ต่อต้านริ้วรอย เติมน้ำ ทำให้ผิวสุขภาพดี)

7. Honey + Lemon Juice + Baking Soda (Breakout Targeting Face Mask ป้องกันการเกิดสิว กำจัดน้ำมันส่วนเกิน ป้องกันการอุดตัน และกำจัดสิ่งสกปรก)

8. Egg White + Lemon Juice + Honey (Wrinkle Minimizing Face Mask ลดเลือนรอยดำ กระชับรูขุมขน และเพิ่มความชุ่มชื้น)

9. Matcha Powder + Coconut Oil + Water (Redness Calming Face Mask ป้องกันสิวและป้องกันผิวจากการทำลายของแสงแดด)

10. Coffee Grounds + Essential Oil (Some blogs recommend Geranium Oil) (Puffiness Reducing Face Mask เพิ่มความกระจ่างใส และลดเลือนรอยดำ)

11. Honey + Baking Soda + Cinnamon (Breakout Prevention Face Mask ลดเลือนรอยสิว ทำความสะอาดรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิวใหม่)

12. Egg White (and nothing but egg white) (Pore Minimizing Face Mask กระชับรูขุมขน)

13. Avocado + Egg + Banana (Wrinkle Minimizing Face Mask กระชับผิวและทำให้หน้านุ่ม ลดริ้วรอย)

14. Coconut Oil + Cocoa Powder (Hydrating Chocolate Face Mask เพิ่มความกระชับปละป้องกันริ้วรอย เติมน้ำและเพ่ิมความนุ่มให้ผิว ฆ่าแบคทีเรียและเพิ่มการป้องกันแสง UV)

15. Cooked Pumpkin + Honey + Topical Vitamin E (Soothing Pumpkin Face Mask ป้องกันสิว ลดเลือนจุดด่างดำ ควบคุมน้ำมันส่วนเกิน และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว)

สรุปความต้องการ VS สูตรมาส์กหน้า

สิว: สูตร 1, 2, 3, 4, 5, 7, 9, 11, 15

กระชับรูขุมขน: สูตร 8, 12, 13, 15

เพิ่มความกระจ่างใส ลดเลือนรอยแผลเป็น ริ้วรอย ชะลอวัย: สูตร 5, 6, 8, 10, 11, 13, 14

เติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น: สูตร 6, 8, 14

credit http://pantip.com/topic/35665981

ฮัลโหล สวัสดีทุกคนนนน วันนี้อากาศดี อารมณ์ก็ดี๊ดี มาเขียนรีวิวดีกว่าเนอะ รีวิวนี้ว่าด้วยเรื่อง “วิปโฟมพร้อมใช้” อิชั้นเองถือว่าเป็นคนที่บ้าคลั่งวิปโฟมมาก ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียน (เอิ่มมมม นานมากแล้วสินะ!) แต่ก่อนก็จะเป็นแบบวิปโฟมหลอดๆ ที่ต้องซื้อตาข่ายเอามาตีเนื้อวิปเอง หลังๆ หลายแบรนด์เค้าออก “วิปโฟมพร้อมใช้” ที่ไม่ต้องตีเนื้อวิปเอง แค่กดออกมาก็ใช้โลด กรี๊ดดดดสิคะ
จากนั้นก็ไปสอยมาลองอยู่หลายตัวเลยจ้า

ก่อนจะเริ่มการรีวิว สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า ทำไมสาวๆ เค้าถึงฮิตติดใจการล้างหน้าด้วยวิปโฟมกัน นอกจากความสนุกสนานที่ได้เล่นกับฟองโฟมแล้ว ความนุ่มละเอียดของเนื้อวิปโฟม จะช่วยเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน แถมไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ความแน่นและความยืดหยุ่นของเนื้อวิปโฟมจะทำให้มือไม่ต้องสัมผัสกับใบหน้า ลดการเกิดริ้วรอย ตีนกาได้
นี่แหละเหตุผลที่อิชั้นบ้าคลั่งวิปโฟมมากเบอร์นี้

เพื่อความอินกับรายการเดอะเฟส ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 ที่เพิ่งดูทีเซอร์ไปวันนี้ เลยจะขอทำตัวเป็นเมนเทอร์สักหน่อย ด้วยการเอา
วิปโฟมพร้อมใช้ในคอลเลกชั่นของเรามารีวิวกันทีละตัว คอมเม้นกันตรงๆ เรียงตัว ตัวไหนดี พี่ก็บอกว่าดี งานนี้มาดูกันว่าตัวไหนโดนเท ตัวไหนได้ไปต่อ #เชื่อพี่ #แล้วพี่จะไม่ทำให้น้องต้องไปกราบใคร 5555

:: ลูกทีมคนที่ 1 Senka Speedy Perfect Whip Airy Touch ::

น้องคนนี้ก็คือร่างพัฒนาของเพอร์เฟกต์วิปแบบหลอดบีบ เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักนางแน่นอน น้องเค้ามีส่วนผสมของรังไหมขาว และ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยเติมความชุ่มชื่นแบบจัดเต็ม จุดขายเด่นๆ ของน้องเค้าคือ การทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างภายในรูขุมขนและขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพได้อย่างล้ำลึก

ปริมาณ: 150 มิลลิลิตร
ราคา: 290 บาท

ลักษณะของเนื้อโฟม: เนื้อโฟมมีความละเอียด นุ่มมาก แต่เนื้อโฟมบีบออกมาแล้วค่อนข้างเหลว หยุบตัวไว แต่ก็ยืดหยุ่นได้ดีทีเดียว
กลิ่น: มีส่วนผสมของแอลกอฮลล์ เมื่อถูๆ วนๆ บนใบหน้า กลิ่นแอลกอฮอล์จะยิ่งชัดมาก ใครผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือคนที่แพ้แอลกอฮอล์ที่ผสมในสกินแคร์ต้องระวังนิสนุง

เมนเทอร์คอมเม้น
ข้อดี: เราว่านางทำความสะอาดได้หมดจด ล้ำลึก วันไหนแต่งหน้าเบาๆ ไม่ลงรองพื้น ไม่กรีดอายไลน์เนอร์
ไม่ปัดมาสคาร่า ตัวนี้เอาอยู่
ข้อด้อย: ล้างเสร็จแล้วหน้าจะตึงๆ เอี๊ยดๆ ไม่ชุ่มชื่น ล้างเสร็จต้องรีบทาครีมบำรุงรัวๆ อิชั้นว่าเหมาะกับสาวผิวมันจัดๆ มากกว่า ถ้าผิวแห้ง-ผิวผสม น่าจะไม่เลิฟเท่าไหร่ นางผสมแอลกอฮอล์อย่างที่รู้ๆ กัน อย่างอิชั้นผิวไม่ค่อยแพ้อะไร ชนะแทบทุกอย่าง 555 ก็ไม่แพ้ แต่ก็ได้ยินเพื่อนหลายคนแพ้ตัวนี้นะ เพราะค่อนข้างแรง
คะแนนที่ให้: 8/10
ซื้อต่อไหม?: ซื้อค่ะ เพราะเราไม่แพ้ และยอมใจเรื่องการทำความสะอาดของนาง (เน้นบำรุงเอาหน่อยละกัน)

:: ลูกทีมคนที่ 2 Bifesta Foaming Whip Bright up ::

น้องคนนี้เพิ่งได้มาล่าสุด นางเป็นวิปโฟมที่มาในขวดกระป๋องลายดอกไม้สีพาสเทลน่ารัก เก๋ๆ แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เป็นแบบเขย่าขวด แล้วบีบโฟมออกมา มีส่วนผสมของไฮยาลูโรเนต ช่วยเรื่องทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น และ AHA จากน้ำนม ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น จุดขายของน้องคนนี้คือ วิปโฟม CO2 ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นมีมานานแล้ว แต่คนไทยและอิชั้นกำลังจะได้ลองเป็นครั้งแรก เค้าเคลมว่าตัว CO2 จะช่วยเรื่องการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้หน้าเปล่งปลั่ง อมชมพู (ล้ำมาก! บลัชออนยังจำเป็นมั้ยเดี๋ยวนี้)

ปริมาณ: 180 กรัม
ราคา: 195 บาท

ลักษณะของเนื้อโฟม: เนื้อวิปโฟมจัดว่า เนียนละเอียด หนาแน่น และนู่มมมมว๊าก บีบออกจากกระป๋องฟืดเดียวจะได้ลูกกลมๆ เว่อร์วัง อลังการ แบบนี้เลย (ทำไมรู้สึกว่าเหมือนซาลาเปาล่ะ555) เนื้อวิปโฟมยุบตัวช้ามากกก แปลว่าโฟมนี้จะใช้หมุนวนบนในหน้าตอนล้างหน้าได้อย่างยาวนาน สนุกสนานกันไป แถมเนื้อโฟมยืดหยุ่นดีมาก ยืดติดมือแบบในภาพเลย จัดว่าเริ่ดทีเดียว
กลิ่น: กลิ่นของนางจะคล้ายๆ กลิ่นส้ม เวลาล้างนวดวนๆ บนใบหน้าจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ อิชั้นว่าเป็นกลิ่นที่ทำให้สดชื่นดีชริงๆ แต่ข้างหลังขวดเขียนว่า fragrance free ไม่ใส่กลิ่นนะ ดังนั้นน่าจะเป็นกลิ่นหอมจากส่วนผสมมากกว่า

เมนเทอร์คอมเม้นท์
ข้อดี: เนื้อวิปโฟมแน่นมาก นุ่มมาก เนียนมากกก มีความล้างหน้านานๆ ฟองโฟมก็ยังฟูอยู่ จัดว่าฟินกันไป ในส่วนของการล้างหน้า ก็ทำได้สะอาดหมดจด โดยไม่ทิ้งความรู้สึกแห้งตึงเลยซักนิด ผิวหลังใช้รู้สึกนุ่มชุ่มชื่น อ่อนโยนเพราะไม่ผสมแอลกอฮอล์ ที่เค้าเคลมไว้ว่าใช้แล้วผิวจะเปล่งปลั่ง อิชั้นก็รู้สึกได้นะ ว่ากระจ่างใสขึ้น แต่เรื่องผิวอมชมพูยังไม่เห็น อาจต้องลองใช้ต่อเนื่องให้นานกว่านี้ ชอบที่มีกลิ่นหอมของส้ม เพราะส่วนตัวชอบกลิ่นแนวฟรุ๊ตตี้อยู่แล้ว
ข้อด้อย: ไม่รู้ว่าเป็นที่อิชั้นคนเดียวรึป่าว ที่กดแต่ละครั้งรู้สึกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาเยอะเกินไปนิสนึง แบบกดฟืดเดียวเนื้อโฟมออกมาอลังการงานสร้างเลย ถ้าใครสอยมาใช้ก็ค่อยๆ กดนะ ไม่งั้นจิหมดเร็ว
คะแนนที่ให้: 9/10
ซื้อต่อไหม?: ซื้อวนไปค่ะ เพราะชอบเนื้อวิปโฟมที่นุ่มและแน่น และหลังใช้ไม่แห้งเอี๊ยดค่ะ

:: ลูกทีมคนที่ 3 Biore Marshmallow Foaming ::

แค่ชื่อก็มีความคิ้วท์แล้ว น้องมาร์ชเมลโล ส่วนผสมอาจไม่มากเท่าตัวอื่น เพราะมีแค่ มอยเจอร์ไรซิ่ง เอสเซ้นส์ ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น จุดขายของนาง คือ ความชุ่มชื่นหลังล้างเสร็จ และกลิ่นหอมอ่อนๆ เวลาล้างจะรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ

ปริมาณ: 150 มิลลิลิตร
ราคา: 250 บาท

ลักษณะของเนื้อโฟม: จัดว่านางเฟลสุดถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ บีบออกมาแปปเดียว เนื้อโฟมก็ยุบตัวทันที เนื้อโฟมนุ่มดี แต่ไม่เนียน ไม่ละเอียด แถมไม่ยืดหยุ่นอี๊กก อิชั้นว่าเนื้อโฟมของนางคล้ายฟองสบู่ที่มีรูพรุนเยอะๆ ไม่สตรองค่ะ
กลิ่น: เลิฟกลิ่นนางนะ เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วผ่อนคลายม๊ากกกกมากกกกกกก ดีงามพระรามไนน์

เมนเทอร์คอมเม้น
ข้อดี: ล้างเสร็จแล้ว ยังรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื่นดี ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ใครแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หมดกังวลไปได้
ข้อด้อย: นางล้างไม่สะอาด อิชั้นคิดว่า คนผิวแห้งน่าจะใช้แล้วชอบ แต่คนผิวผสม-ผิวมัน จะไม่น่าปลื้มอย่างแรง เพราะล้างแล้วความมันไม่หลุดออกไปเลย เวลาใช้อิชั้นกดทีละหลายๆ ปั๊ม แถมล้าง 2-3 รอบกว่าจะสัมผัสถึงความสะอาด ไร้ความมัน แอบนอยด์เรื่องเนื้อโฟมที่ไม่แน่น เวลาล้าง นวดวนๆ แปปเดียวฟองหายแล้วจ้า เอิ่ม… ไม่ฟินเท่าที่ควร
คะแนนที่ให้: 6.5/10
ซื้อต่อไหม?: คงไม่ซื้อแล้วค่ะ เพราะได้แค่เรื่องเติมความชุ่มชื่น ส่วนเรื่องทำความสะอาดและฟองโฟม ถือว่าเฟล

:: ลูกทีมคนที่ 4 Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Mousse Wash ::

หลังจากซื้อวิปแบบบีบของฮาดะมา ก็เพิ่งรู้ว่าแบรนด์เค้าออกแบบกดมาด้วย อะๆ ยอมใจ ไปสอยมาก็ได้ น้องคนนี้มีจุดขายอยู่ที่ส่วนผสมของซุปเปอร์ ไฮยาลูโรนิค แอซิด ช่วยเรื่องการเติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิว ทำความสะอาดล้ำลึก แม้คราบเครื่องสำอาง

ปริมาณ: 160 มิลลิลิตร
ราคา: 369 บาท

ลักษณะของเนื้อโฟม: เนื้อโฟมมีความดีงาม เนื้อวิปเหลวไปหน่อย แต่เรื่องความเนียน แน่น นุ่ม จัดว่าดีงามพระรามไนน์คล้ายกับบิเฟสต้ามากๆ ความยืดหยุ่นก็ถือว่าดีเลยทีเดียว
กลิ่น: แทบอยากจะกลั้นหายใจตลอดการล้างหน้า แต่บังเอิญอิชั้นเป็นคนล้างหน้านานๆ ก็กลัวจะตายซะก่อน กลิ่นนางแรงมาก เป็นกลิ่นคล้ายๆ พวกสารเคมี ไม่แน่ใจว่าใช่แอลกอฮอล์มั้ย? คิดว่าเป็นคนเดียว ลองไปหารีวิวคนอื่น เอ้า! เค้าก็เพลียเรื่องกลิ่นของนางหมดนี่นา

เมนเทอร์คอมเม้น
ข้อดี: ที่แบรนด์เค้าเคลมว่าล้างหน้าได้สะอาด ก็จริงอย่างเค้าว่า คราบเครื่องสำอางเบาๆ ล้างได้ ไม่มีปัญหา ใช้ไปสักพัก สัมผัสได้ว่าหน้านุ่มและกระจ่างใสขึ้นจริงๆ
ข้อด้อย: อิชั้นกรี๊ดดดหนักมาก เพราะเพลียกลิ่นเคมีของนาง แนะนำว่าใครผิวบอบบาง แพ้ หรือเป็นสิวง่าย ควรหาข้อมูลดีๆ เพราะกลิ่นนางค่อนข้างแรง บางครั้งอิชั้นล้างแล้วแอบระคายเคืองผิวเล็กน้อย แต่ถ้าคนไม่แพ้ง่าย ผิวสตรองและไม่นอยด์เรื่องกลิ่นก็ใช้โลดดด
คะแนนที่ให้: 7/10
ซื้อต่อไหม?: คงไม่ซื้อแล้วค่ะ เพราะถึงจะทำความสะอาดดีเลิศ แต่กลิ่นก็คือความฟินอย่างหนึ่ง ดังนั้นโบกมือลาดีกว่า

:: ลูกทีมคนที่ 5 Kose Softymo Speedy Cleansing Foam ::

น้องคนสุดท้ายเชื่อว่าหลายๆ คนรู้จักนาง เพราะนางออกมานานแล้วเหมือนกัน ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า ด้วยส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ จุดขายของน้องเค้าคือ เป็นวิปโฟม 2in 1 ล้างหน้าและเครื่องสำอางในคราวเดียวกัน เน้นว่า สำหรับเครื่องสำอางบางๆ อย่างพวกกันแดด บลัชออน แป้งพัฟ

ปริมาณ: 200 มิลลิลิตร
ราคา: 299 บาท

ลักษณะของเนื้อโฟม: เนื้อโฟมค่อนข้างเหลว แต่เนียนนุ่มและละเอียดดีมาก เรื่องความยืดหยุ่น ดีกว่าบีโอเรนิสนึง
แต่ก็ถือว่าเฟลอยู่ดี เพราะแทบจะไม่ยืดติดตามมือมาเลย
กลิ่น: ค่อนข้างฉุนแอลกอฮลล์ แต่ก็มีกลิ่นน้ำหอมปนๆ มาด้วย โดยรวมถือว่ารับได้

เมนเทอร์คอมเม้น
ข้อดี: ที่ทางแบรนด์บอกว่าเป็นวิปโฟม 2 in 1 ล้างเครื่องสำอางบางๆ ได้ ก็จริง เลิฟสุดๆ เพราะสะดวกสบายดี เหมาะกับสาวที่แต่งหน้าบางๆ และขี้เกียจใช้รีมูฟเวอร์
ข้อเสีย: อิชั้นเป็นคนล้างหน้านาน อย่างที่บอก เวลาล้างทีก็ถูๆ วนๆ อยู่นาน พอเนื้อไม่แน่น ไม่ยืดหยุ่น เลยทำให้ถูได้แปปเดียว ฟองก็หมดแล้ว (เจ้ไม่ฟิน) อีกอย่างถ้าไปถูใกล้บริเวณเซ็นซิทีฟอย่างรอบดวงตา จะรู้สึกระคายเคืองนิดหน่อย คิดว่านางผสมแอลกอฮอล์นะ เพราะได้กลิ่นฉุนๆ
คะแนนที่ให้: 7.5/10
ซื้อต่อไหม?: ไม่ซื้อค่ะ เพราะเวลาถูๆ วนๆ ที่ใบหน้านานๆ แล้วรู้สึกแสบดวงตา

จบแล้ววว รีวิวของช้านนนน กับการสวมบทบาทเมนเทอร์ ค้นหาวิปโฟมที่เริ่ด! ใช้แล้วเป๊ะ! ล้างแล้วปัง! สรุปก็คือ อิชั้นจะซื้อต่อทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่ Senka และ Bifesta เอาเป็นว่า ใครอยากเน้นเรื่องการเติมความชุ่มชื่น หน้ากระจ่างใส อยากใช้วิปโฟมเนื้อเนียนและแน่น นวัตกรรมใหม่ๆ ไม่หลุดเทรนด์ ก็พุ่งตัวไปสอย Bifesta แต่ถ้าใครผิวค่อนข้างมัน ชอบการทำความสะอาดล้ำลึก และไม่แพ้แอลกอฮอล์ จัด Senka เลยค่ะ จ้า รับรองฟินนนนนน

ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดกับอิชั้นคนเดียว เอาความรู้สึกล้วนๆ ในฐานะผู้ใช้จริง เสียตังค์มาเอง (เล่นจริง เจ็บจริง) มาเล่าให้ฟัง แต่ยังไงสกินแคร์ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย เอาเป็นว่า ใครกำลังคิดว่า จะซื้อวิปโฟมยี่ห้อไหนดี? รีวิวนี้น่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง สุดท้ายนี้ ใครใช้ตัวไหนอยู่ก็มาเม้ามอยกันนะ …อิชั้นขอตัวไปล้างหน้านอนก่อนนะ บายยยยย ซียา!

เครดิต http://pantip.com/topic/35667750